วิธีการเลือกซื้อ เครื่องเดินวงรี Elliptical

เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical เป็นหนึ่งในเครื่องออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งนี้เพราะถูกออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทกต่อ เข่า ข้อเท้า และ ข้อต่อ ต่างๆ ให้น้อยลง (Low Impact) เมื่อเทียบกับการวิ่งปกติ เวลาใช้งานผู้ออกกำลังกายจะเหมือนเดินอยู่บนอากาศ จึงมีชื่อเรียกหลากหลายชื่อ เช่น จักรยานอากาศ จักรยานวงรี ลู่วิ่งวงรี ลู่เดินวงรี ลู่วิ่งกึ่งสเต็ป ลู่เดินกึ่งสเต็ป หรือ Cross Trainer Machine และ ยังสามารถออกกำลังกายได้ทั้งร่างกายส่วนบน Upper Body และ ส่วนล่าง Lower Body อีกด้วย

ดังนั้น เครื่องเดินวงรี จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แต่ไม่ต้องการการกระทบกระเทือนต่อ เข่า และ ข้อเท้า มากเกินไป เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตราฐาน ผู้สูงอายุ ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการวิ่งแต่ยังคงอยากออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ รวมไปถึง คนปกติที่ต้องการออกกำลังกายด้วยเช่นกัน

สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะเป็นเจ้าของ เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical สักตัว ทางเราได้รวบรวม วิธีการเลือกซื้อ เครื่องเดินวงรี Elliptical มาเป็นข้อๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย ดังต่อไปนี้

1. งบประมาณ

เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical นั้น มีราคาตั้งแต่ หลักพัน จนไปถึง หลักแสน บาท ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะและคุณภาพของตัวเครื่อง รวมไปถึงแบรนด์สินค้าด้วย สิ่งสำคัญคือ เราต้องตั้งงบประมาณให้เหมาะสมกับ สภาพร่างกาย และ เป้าหมายในการออกกำลังกาย ของเรา เช่น ถ้าเราเป็นคนรูปร่างเล็กและไม่ได้ตั้งใจจะออกกำลังกายบ่อยนัก เครื่องออกกำลังกายขนาดเล็ก ราคาถูก อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราตัวใหญ่ หรือ ต้องการออกกำลังกายหนัก เช่น HIIT Training เครื่องออกกำลังกาย หรือ Elliptical ที่เลือกใช้ ก็ควรมีคุณภาพดี และตั้งงบประมาณสูงขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการ เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical ใช้ในบ้าน คุณภาพดี และทนทาน ควรตั้งงบประมาณที่ 10,000 – 30,000 บาท ส่วนผู้ที่มองหา Elliptical สำหรับใช้เชิงพาณิชย์ หรือ ในโรงยิมฟิตเนส ส่วนมากจะอยู่ที่ตัวละ 30,000 บาทขึ้นไป

2. ลองสินค้าด้วยตัวเอง

เครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical นั้น แม้จะเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอเช่นเดียวกับ ลู่วิ่งไฟฟ้า แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือ การออกกำลังกายบนเครื่อง Elliptical จะไม่สามารถวิ่งอย่างอิสระได้เหมือนลู่วิ่ง คือ จะถูกจำกัดด้วยตัวของ Elliptical เอง ดังนั้นการลองเล่นด้วยตัวเองจึงสำคัญกว่าสำหรับเครื่องเดินวงรี เมื่อเทียบกับเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ทั้งนี้เพราะสรีระของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

สำหรับการเลือกซื้อเครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical นั้น ถ้าเป็นไปได้ ควรไปลองสินค้าด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากไม่สามารถลองสินค้าเองได้ สิ่งที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้คือ ช่วงก้าว หรือ Stride Length ซึ่งเราจะกล่าวถึงในข้อถัดไป

3. ช่วงก้าว Stride Length

ช่วงก้าวของเครื่องเดินวงรี เป็นข้อมูลที่สำคัญมากในการตัดสินใจซื้อ เพราะผู้ใช้งานเครื่องเดินวงรีจะไม่สามารถวิ่งหรือเดินอย่างอิสระเหมือนลู่วิ่ง เราจึงต้องเลือกเครื่องเดินวงรีที่มีความยาวของช่วงก้าวที่เหมาะสมกับตัวเรา โดยดูที่ความสูงเป็นหลัก ดังนี้

3.1 ความสูงผู้ใช้ ต่ำกว่า 160 ซม. ควรใช้เครื่องเดินวงรีที่มีช่วงก้าว 16 – 18 นิ้ว

3.2 ความสูงผู้ใช้ 160 – 170 ซม. ควรใช้เครื่องเดินวงรีที่มีช่วงก้าว 18 – 20 นิ้ว

3.3 ความสูงผู้ใช้ มากกว่า 170 ซม. ควรใช้เครื่องเดินวงรีที่มีช่วงก้าว 20 – 22 นิ้ว

4. ความราบรื่นในการใช้งาน

ความราบรื่นในที่นี้ หมายถึง เวลาใช้งานเครื่องเดินวงรี หรือ Elliptical แล้ว รู้สึกว่าไม่มีสะดุด หรือ สามารถวิ่งหรือเดินได้อย่างราบรื่นนั่นเอง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของตัวเครื่องเดินวงรีเอง สำหรับข้อนี้นั้น จะสามารถทดสอบได้ก็ต่อเมื่อเราเดินทางไปทดลองสินค้าด้วยตัวเองเท่านั้น

5. ตำแหน่งของจานล้อ

ตำแหน่งของจานล้อ Flywheel ของเครื่องเดินวงรี Elliptical ส่วนใหญ่ จะมีอยู่ 3 แบบ ดังนี้

5.1 จานล้ออยู่ข้างหน้า (Front Drive) เครื่องเดินวงรีที่ใช้จานล้อหน้า เวลาใช้งาน จะให้ความรู้สึกว่าวิ่งยกขาสูงกว่าแบบจานล้อหลัง เพราะว่าตัวบันไดปั่นอยู่ติดกับล้อด้านหน้า และเนื่องจาก จุดศูนย์ถ่วง หรือ จานล้อ อยู่ตรงกลางของเครื่อง จึงทำให้เวลาใช้งานจะรู้สึกว่ามั่นคงกว่า แต่ก็มีอะไหล่ที่เกี่ยวข้องมากกว่าแบบจานล้อหลัง และ มักจะมีเสียงดังกว่าแบบจานล้อหลัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจานล้อด้วย

5.2 จานล้ออยู่ข้างหลัง (Rear Drive) เครื่องเดินวงรีแบบจานล้ออยู่ข้างหลัง จะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการวิ่งหรือเดินมากกว่าแบบจานล้อหน้า อะไหล่ที่เกี่ยวข้องน้อยกว่าแบบจานล้อหน้า เสียงเงียบกว่า และราคาจะสูงกว่าแบบจานล้อหน้าในคุณภาพที่เท่ากัน

5.3 จานล้ออยู่ตรงกลาง (Center Drive) เป็นเทคโนโลยีล่าสุด ที่จานล้อจะอยู่ตรงกลางเครื่องทั้งของข้างของบันไดปั่น ให้ความรู้สึกวิ่งที่ราบริ่นกว่าและเงียบกว่าทั้งแบบจานล้อหน้าและจานล้อหลัง รวมทั้งใช้พื้นที่น้อยกว่าด้วย แต่ข้อเสียสำคัญ คือ ราคาแพง

เรื่องขนาดและตำแหน่งของจานล้อเครื่องเดินวงรีนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า เราไม่สามารถบอกได้ว่า ตำแหน่งจานล้อแบบไหนดีกว่าแบบไหน เพราะว่าแต่ละอันก็มีความแตกต่างกัน ดังนั้นอาจจะต้องลองสินค้าก่อนตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง

6. ระบบสร้างแรงต้าน

การสร้างแรงต้าน หรือ Resistance สำหรับเครื่องออกกำลังกายนั้น ก็เพื่อให้ผู้ใช้สามารถฝึกและปรับความเข้มข้นของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวเองได้ ซึ่งเครื่องเดินวงรี จะมีการสร้างแรงต้านอยู่ 3 ระบบ คือ

6.1 ระบบเสียดสีด้วยสายพานไนลอน (Brake Resistance) เป็นการใช้ สายพานไนลอน เสียดสีกับ ล้อของเครื่องเดินวงรี ทำให้เกิดแรงต้านขึ้น การปรับแรงต้านทำได้โดยหมุนปรับความตึง หย่อน ของสายพานไนลอนนั่นเอง การทำแบบนี้จะทำให้เกิดเสียงดัง เพราะมีการเสียดสีระหว่างสายพานกับตัวล้อ และ การวิ่งไม่นุ่มเท่าระบบอื่นๆ

6.2 ระบบแม่เหล็ก (Magnetic Resistance) เป็นการใช้แม่เหล็กกำลังสูงมาสร้างแรงต้านให้กับจานล้อ เมื่อผู้ใช้ต้องการปรับแรงต้านให้มากขึ้น ก็คือปรับตัวแม่เหล็กให้เข้าใกล้จานล้อมากขึ้น ระบบนี้จะ ไม่มีเสียง เพราะไม่มีการเสียดสี ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลเวลาวิ่งหรือเดิน

6.3 ระบบไฟฟ้า (Electric Resistance) ลักษณะจะคล้ายกับระบบแม่เหล็ก เพียงแต่ใช้ไฟฟ้าในการสร้างแรงต้านของแม่เหล็กขึ้นมา จึงทำให้ระบบนี้สามารถปรับแรงต้านได้หลากหลาย และ สามารถสร้างเป็นโปรแกรมออกกำลังกายได้หลากหลายตามแรงต้านอีกด้วย แต่ก็แลกกับการที่จะต้องเสียบสายไฟเข้ากับเครื่องตลอดเวลาที่ใช้งาน และ ถ้ามีปัญหาเรื่องไฟฟ้า (ไฟดับ หรือ เครื่องเสีย) ก็จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้นั่นเอง

7. หน้าจอมอนิเตอร์

ปกติเครื่องเดินวงรี ควรมีฟังก์ชั่นพื้นฐาน 6 ฟังก์ชั่น คือ

7.1 ระยะทาง

7.2 ความเร็ว

7.3 เวลาปั่น

7.4 แคลอรี

7.5 ระยะทางสะสม

7.6 ชีพจร

แต่สำหรับเครื่องเดินวงรี Elliptical ที่ราคาแพงขึ้น อาจจะได้ฟังก์ชั่นที่หลากหลายกว่านี้ เช่น มีโปรแกรมออกกำลังกาย โปรแกรม Body Fat มีเกมเล่นแข่งกับ AI โดยเครื่องเดินวงรีที่ใช้การสร้างแรงต้านแบบไฟฟ้านั้น จะมีโปรแกรมออกกำลังกายหลากหลายให้ใช้งานอีกด้วย

8. แฮนด์จับของเครื่องเดินวงรี

แฮนด์จับของเครื่องเดินวงรี Elliptical นั้น ดูเหมือนจะไม่เป็นสิ่งสำคัญอะไร แต่จริงๆ แล้ว เนื่องจากเครื่องเดินวงรี ถูกออกแบบมาให้ใช้ออกกำลังกายได้ทั้ง ช่วงล่าง (Lower Body) และ ช่วงบน (Upper Body) เวลาที่เราวิ่งบนเครื่องเดินวงรีเร็วๆ การจับที่แฮนด์จับจึงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับแฮนด์จับ ให้เราดูว่า เครื่องเดินวงรีนั้นมีทั้ง แฮนด์จับแบบโยกได้ และ แฮนด์จับแบบอยู่กับที่ เพราะเราจะสามารถเลือกการจับได้ตามความถนัดของเรา และนอกจากนี้ ถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกเครื่องเดินวงรีที่มีแฮนด์จับที่สามารถจับได้หลากหลายแบบ เพื่อให้เราสามารถปรับการจับแฮนด์ได้ตามความต้องการของเราที่สุดด้วย

9. เบาะนั่ง

เบาะนั่งเหมือนจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรนักสำหรับคนปกติ แต่สำหรับ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำกายภาพบำบัด ผู้ที่สุขภาพไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วย มีโรคประจำตัว แล้วนั้น การที่มีเบาะนั่งจะช่วยได้มาก เพราะเมื่อรู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อ ก็เพียงนั่งลงที่เบาะเพื่อพัก และนอกจากนี้ ก็ยังสามารถใช้เครื่องเดินวงรีในลักษณะของการนั่งปั่น แบบ จักรยานออกกำลังกายได้อีกด้วย

10. ประเภทของร้านขายเครื่องออกกำลังกาย

เครื่องเดินวงรี Elliptical เป็นเครื่องออกกำลังกายคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ มีวางจำหน่ายหลากหลายช่องทาง ดังต่อไปนี้

10.1 ห้างสรรพสินค้า หลายๆ ท่านเลือกซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ห้างสรรพสินค้า เพราะเชื่อมั่นว่าจะได้รับของแน่นอน และ ได้ทดลองสินค้าก่อน อย่างไรก็ตาม เครื่องออกกำลังกายที่ขายตามห้างสรรพสินค้ามักจะมีราคาแพง เพราะร้านค้าที่นำสินค้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าต้องจ่ายค่าพื้นที่ หรือที่เรียกกันว่า GP ให้กับทางห้าง 30%-50% ของราคาขายสินค้าเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆ แล้ว ผู้ติดตั้ง หรือ ผู้ดูแลหลังการขาย ก็มักจะเป็นเจ้าหน้าที่จากผู้ที่นำสินค้าเข้าไปขายในห้างอยู่ดี หากเป็นไปได้ เราจึงแนะนำให้เลือกซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือมากกว่า

10.2 Lazada หรือ Shopee อุปกรณ์ออกกำลังกายจาก Lazada หรือ Shopee นั้น มีข้อเด่นคือ ราคาที่ถูกมากๆ ทั้งนี้เพราะสินค้าใน Lazada หรือ Shopee จะแข่งกันที่ราคาอย่างเดียว ซึ่งหลายๆ ครั้ง จะไม่มีการรับประกัน ขายขาดอย่างเดียว หรือ มีการรับประกันที่ไม่ได้มาตราฐาน คือ เขียนว่ารับประกัน แต่จริงๆ ไม่ได้ทำอะไร และ เสป็คสินค้าบางครั้งก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง สังเกตุได้จาก รูปสินค้า จะไม่ใช่รูปจริง อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีร้านที่ดีและมีจรรยาบรรณอยู่หลายร้านใน Lazada และ Shopee เช่นกัน เราจึงแนะนำว่า ควรเลือกสินค้าใน Lazada และ Shopee อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ

10.3 ร้านขายเครื่องออกกำลังกายโดยเฉพาะ  สำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องออกกำลังกาย คุณภาพสูง ราคาไม่แพง และตรงตามเสป็คแน่นอน การซื้อที่ร้านขายเครื่องออกกำลังกายโดยเฉพาะเป็นทางเลือกที่ดีมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรเลือกร้านที่จำหน่ายสินค้าที่มีแบรนด์มาตราฐาน มีหน้าร้านให้ลองสินค้า มีมีการรับประกัน รวมถึงเงื่อนไขการรับประกันที่ชัดเจน

11. แบรนด์สินค้า

เครื่องออกกำลังกายปัจจุบัน มีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีจุดแข็งต่างๆ กัน ทางเราขอแนะนำให้เลือกซื้อกับแบรนด์หรือยี่ห้อที่เชื่อถือได้ มีหน้าร้าน มีเว็บไซต์ให้ข้อมูล รวมไปถึง Facebook อย่างชัดเจน เพราะสินค้าที่มีแบรนด์นั้น คุณภาพของสินค้า และ การดูแลลูกค้า จะดีกว่ามาก เพราะการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ สินค้าจะต้องดี และ ต้องมีการบริการหลังการขายที่ดีด้วยเช่นกัน

12. การรับประกันสินค้า

เป็นเรื่องสำคัญมากที่หลายๆ คนมองข้าม เครื่องเดินวงรี Elliptical เป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และหากมีอุปกรณ์ใดๆ ชำรุด ก็สามารถเปลี่ยนหรือซ่อมแซมได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อตัวใหม่ ร้านค้าส่วนใหญ่มักจะประกันสินค้าอยู่ที่ 1 ปี อย่างไรก็ตาม เราควรศึกษาเงื่อนไขการรับประกันให้ละเอียด หรือ สอบถามจากร้านค้าโดยตรง เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างถูกต้องชัดเจน

สรุป

และนี่คือ 12 ข้อแนะนำในการ เลือกซื้อ เครื่องเดินวงรี Elliptical ที่ทาง Galaxy Fitness ได้รวบรวมให้ลูกค้าทุกๆ ท่านอ่านเพื่อเป็นแนวทางในการซื้อเครื่องเดินวงรี ให้ได้รุ่นที่ถูกใจ คุ้มค่าเงินที่สุด รวมถึงไม่ต้องปวดหัวเมื่อมีปัญหาอีกด้วย